รีวิว Noise หนังที่ระบุแนวว่าเป็นดราม่าระทึกขวัญ

รีวิว Noise หนังที่ระบุแนวว่าเป็นดราม่าระทึกขวัญ

รีวิวNoise หนังที่ระบุแนวว่าเป็นดราม่าระทึกขวัญ พล็อตเรื่องก็ดูน่าจะเป็นแบบนั้น แต่เรื่องจริงกลับกลายเป็นหนังแนวจิตวิทยาที่ค่อนข้างเลอะเทอะสติแตกแบบไม่มีเหตุผล ด้วยเนื้อเรื่องที่ตัวเอกเป็นอินฟลูเอนเซอร์พึ่งสร้างครอบครัวมีลูกแบะเบาะ ได้กลับมาอยู่บ้านเกิด

แต่แล้วก็ได้พบกับพ่อวัยชราที่หลงๆ ลืมๆ มาพูดเรื่องโรงงานใกล้บ้านที่ ปิดตาย ไปว่ามีความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง ทำให้เขาลงมือสืบเรื่องนี้แล้วก็เผยแพร่ทาง Live ให้กับผู้ติดตาม แต่กลายเป็นว่าเรื่องราวทั้งหมดกลับไม่ได้เน้นไปที่ปมเรื่องลึกลับที่ว่านั่นเลย

แต่เป็นการหมกหมุ่นของตัวเอกกับเรื่องราวในอดีต จนค่อยๆ ทิ้งการดูแลครอบครัวไป ทิ้งลูกที่เอาแต่ร้องทั้งวัน หนังกลายเป็นแนวจิตวิทยา คนป่วยจิตเวชแบบงงๆ ว่ามาได้ยังไง ซึ่งสุดท้ายตัวเอกก็บ้าหลอนไปเองกับเรื่องแบบนี้ ทั้งๆ ที่เรื่องราวก็ดำเนินไปไม่นาน

แล้วก็ยังตามมาด้วยการเฉลยปมแบบที่ไร้สาระไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องลึกลับที่ว่านั่นเลยด้วยซ้ำ (ไม่รู้ว่าโยงมาอาการบ้าของตัวเอกได้ยังไง) บอกเลยนี่คือหนังที่เขียนบทหลอกคนดูไม่พอ ยังเล่าเรื่องไม่สนุก  ไร้ความน่าติดตาม  ไม่มีจุดเด่นจุดขายแม้กระทั่งความเป็นหนังอินดี้ก็ยังไม่ได้เลยครับ อย่าเสียเวลากับการคิดจะดูเลยแม้แต่น้อยครับ

มีหนังเล็ก ๆ เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจและอยากจะหยิบขึ้นมาแนะนำกัน เป็นหนังภาษาสเปนจากเม็กซิโกที่เพิ่งจะสตรีมมิ่งออนไลน์ไปทั่วโลก หนังที่มีชื่อว่า “Noise (Ruido) เสียงนี้..ไม่มีวันแผ่ว” ที่พกพามาด้วยประเด็นที่จัดจ้าน ตีแผ่ด้านมืดของสังคมเม็กซิกันออกสู่สายตาชาวโลก แม้ว่ามันจะเป็นแค่เสียงแทรกเล็ก ๆ แบบที่ชื่อหนังบอกเอาไว้ แต่การส่งสารครั้งนี้ก็หวังว่าจะทำให้เสียงที่ดูมองว่าเป็นเสียงรบกวนกลายเป็นเสียงที่ดังกึกขึ้นได้ในสักวัน

รีวิวNoise เสียงนี้..ไม่มีวันแผ่ว เป็นเรื่องราวของฮูเลีย หญิงสูงวัยที่เป็นทั้งแม่ พี่สาว น้องสาว ลูกสาว และเพื่อนร่วมงาน เหมือนกับใครอีกหลายคนที่ชีวิตของพวกเธอต้องเผชิญกับความรุนแรงที่มีต่อผู้หญิงซึ่ งแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางในเม็กซิโก ฮูเลียกำลังตามหาเฮร์ ลูกสาวของเธอ ซึ่งในการตามหาลูกครั้งนี้ เธอจะได้พบเจอกับเรื่องราวและการต่อสู้ของผู้หญิงอีกหลายคน

นี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทของผู้กำกับหญิง “นาตาเลีย เบริสตาอิน” ที่มักจะสร้างผลงานที่สื่อและสะท้อนเป็นตัวแทนของสตรีอยู่บ่อยครั้ง และในครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอเลือกที่จะเล่าเรื่องราวอันเป็นบาดแผลช้ำชอกในสังคมผ่านตัวละครที่เป็นผู้หญิงเป็นหลักอีกครั้ง กับสตอรี่ที่แสนสิ้นหวังและขมขื่นของคนที่เฝ้ารอ แม้ว่ารายละเอียดต่าง ๆ ของหนังอาจจะไม่ได้ยั้งลึกอะไรมากสักเท่าไหร่ เป็นการแตะเข้าไปแบบผิวเผินเท่านั้น

แต่ก็นับถือที่ Noise เสียงนี้..ไม่มีวันแผ่ว กล้าที่จะหยิบเอาประหยิบที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลและมือที่มองไม่เห็นในสังคมเม็กซิกันมาตีแผ่ออกมาสู่สังคมวงกว้าง ด้วยการใช้ตัวละครหญิงชราเป็นตัวเดินเรื่องและนำทางผู้ชมไปทุกทิศทางกับเธอ ในการเฟ้นหาลูกสาวที่หายตัวไป กับข้างในใจของเธอที่บอบช้ำอย่างรุนแรงกับความสิ้นหวังและหมดหวังในการค้นหาลูกสาวในครั้งนี้

ทิศทางของหนังคือสะท้อนความเป็นดราม่า แต่ก็ยังทำออกมาได้จัดจ้านเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทการสืบสวนที่ยังไม่ค่อยมีชั้นเชิงมากเท่าไหร่ ขณะที่พาร์ทที่พาผู้ชมไปสำรวจความเจ็บปวดภายในของตัวละครก็ยังไม่ลึกซึ้งมากเพียงพอที่จะกัดกินหัวใจกับบาดแผลนั้นตามไปด้วย จึงทำให้หนังชั่วโมงเศษ ๆ เรื่องนี้เป็นหนังที่ดูได้เรื่อย ๆ กับการค่อย ๆ เผยอทีละด้านมืดหมกเม็ดในเม็กซิโก

ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า Noise เสียงนี้..ไม่มีวันแผ่ว เป็นหนังที่มาเป็นกระบอกเสียงให้กับเหยื่อในสงครามยาเสพติดของรัฐบาลเม็กซิกัน ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง คอร์รัปชั่น และความสูญเสีย หากคุณได้สัมผัสกับหนังเรื่องนี้ไปจนจบ ก็พบได้กับสิ่งที่ผู้สร้างต้องการจะสื่อสารออกมาอย่างเด่นชั้น โดยเฉพาะฉากจบที่สื่อให้เห็นคำตอบอย่างชัดเจนเลยว่า…จบอย่างสิ้นหวังโดยแท้

และหนังก็ยังทิ้งท้ายด้วยเครดิตภาพของบรรดาผู้สูญหายไปนับตั้งแต่การประกาศสงครามยาเสพติดของภาครัฐ ที่ไม่มีใครล่วงรู้ถึงชะตากรรมของพวกเขา และยังคงเป็นสิ่งที่พบเจอได้ในสังคมยุคปัจจุบันนี้ ที่ทำเหมือนว่าชีวิตมนุษย์คนหนึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าอะไรเลยบนโลกใบนี้ ช่างเป็นข้อความและเสียงเบา ๆ ที่แสนทรมานจับใจเมื่อได้สัมผัสกับเรื่องราวในหนังเรื่องนี้มาทั้งหมดแล้วนั้น

ในส่วนของการแสดงนั้น เราอาจจะไม่เคยได้เห็นลีลาการแสดงของ “ฮูเลียตตา เอกูร์โรลา” มาก่อน แต่ก็ถือว่าเธอทำหน้าที่แบกรับหนังเรื่องนี้เอาไว้เพียงลำพังได้อยู่ตัวทีเดียว ทั้งการปล่อยอารมณ์กับอินเนอร์ตัวละครที่ได้รับนั้น ทำออกมาได้ช่างคมคาย สับสน และสิ้นหวังโดยแท้ เป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยมิติ ทั้งที่โครงสร้างของหนังแทบจะไม่ได้ใส่มิติอะไรเข้าไว้สักเท่าไหร่ด้วยซ้ำไป

โดยสรุปแล้วนั้น Noise เสียงนี้..ไม่มีวันแผ่ว อาจจะเป็นหนังภาษาสเปนที่สะท้อนปัญหาสังคมของเม็กซิกันแบบเสียงไม่ดังมากพอตามคอนเซ็ปต์ของหนัง ข้อความของหนังค่อนข้างชัดเจน กระแทกกระทั้นและกล้าที่จะนำเสนอตีแผ่ด้านมืดของตัวเองให้โลกได้รับรู้ แม้ว่ามันจะเป็นแค่การแตะต้องแบบผิวเผินเท่านั้นก็ตาม แต่ก็เป็นการเสนอในมุมมองของคนที่รอคอย คอยเฝ้าค้นหาโชคชะคาของคนที่รออยู่โดยที่ไม่รู้ว่าจะไปจบลงตรงไหน