The Wolf of Wall Street คนที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วอะดรีนาลีนในร่างกายต้องพุ่งพล่าน อยากจะกระโดดจากชั้นสองของบ้านลงมาแน่นอน เพราะหนังเรื่องนี้มันมีความบ้าระห่ำแบบสุดทรีนจริง ๆ ชื่อหนังอาจฟังดูเกี่ยวกับหุ้นแต่ความจริงไม่ค่อยมีอะไรมากเกี่ยวกับหุ้นเลยคุณผู้ชม ไม่ว่าใคร ๆ ก็เข้าถึงได้แม้ไม่เล่นหุ้น หนังเรื่องนี้ถูกสร้างจากเรื่องจริงของ Jordan Belfort อดีตโบรกเกอร์ผู้สร้างวีรกรรมอันแสบสันในตลาดค้าหุ้นยักษ์ใหญ่
อย่าง Wall Street รับบทโดย Leonardo DiCaprio หนังบอกเล่าเรื่อราวของ Jordan Belfort โบรกเกอร์หนุ่มผู้ที่เข้าทำงานในบริษัทแค่วันเดียวบริษัทก็ต้องปิดตัวลง เพราะเจอพิษ Black Monday ทำเอาตลาดหุ้นร่วงระนาวกันทั่วโลก เขาจึงต้องหาที่ทำใหม่ และได้ทำงานในบริษัทเล็ก ๆ ที่มีพนักงานไม่กี่คนทำการค้าหุ้นราคาถูก ๆ แต่ก็เหอะเพชรอยู่ที่ไหนก็เป็นเพชร Jordan ใช้ Skills การพูดโน้มน้าวใจของเขาขายหุ้นได้อย่างเทพ
ๆ จนใคร ๆ ต้องนับถือ หลังจากนั้นเขาได้ออกมาเปิดบริษัทขายหุ้นเองโดยชวนเพื่อน และคนที่มีความทะเยอทะยานสูง ๆ มาร่วมทีมด้วย หลังจากนั้น Jordan ก็ทำการถ่ายทอด Skills ขายหุ้นอย่างเทพ ๆ ของเขา และกลโกงพร้อมลูกล่อลูกชนต่าง ๆ ให้กับพนักงานในบริษัทในเวลาเดียวกันก็ปลุกกิเลส และความหิวโหยเงินในตัวพวกเขาจนนำไปสู่การหลอกลวงให้ลูกค้าซื้อหุ้นห่วย ๆ เพื่อที่จะได้ค่าส่วนต่างมูลค่ามหาศาลจากการแนะนำ นั้นจึงทำให้ Jordan และทีมของเขาสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ใช้ชีวิตอย่างอู่ฟู หรูหรา บำเรอกิเลสตัวเองอย่างเมามันส์ จนทำให้ FBI สังเกตเห็นความผิดปกติขึ้น
The Wolf of Wall Street หนังเรื่องนี้มันมีความบ้าระห่ำ
ด้วยความอัจฉริยะในการโน้มน้าวใจ ความทะเยอทะยาน การโกง ความบ้าแบบสุดโต่ง และความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ชีวิตของ Jordan ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด และต่ำสุดของชีวิตสลับไปมาอย่างกับเล่นรถไฟเหอะผสมความตลก (ร้าย) ปนเศร้า ในส่วนของพล็อตเรื่องจะเน้นไปที่การใช้ชีวิตแบบทะเยอทะยาน และการใช้เงินอย่างบ้าหลุดโลกของ Jordan เพื่อสนองความอยาก และความสะใจแก่คนดูด้วยกิเลสต่าง ๆ ที่มนุษย์ส่วนใหญ่
ใฝ่หาไม่ว่าจะเป็น เงินทอง เหล้า สิ่งเสพติด Sex วัตถุนิยมต่างๆ บราๆ บวกกับเนื้อเรื่องที่ดูจะจบ แต่ดันไม่จบ เพราะมันดำเนินต่อด้วยความบ้าของตัวละครซึ่งการตัดสินใจทำบางอย่างก็ทำเราอึ้งกันไปเลยแหละ โดยรวมพล็อตเรื่อง คือสนุก สะใจ ไม่เนิบนาม โดนใจคนขี้เบื่อ ดูเผิน ๆ หนังอาจจะดูโง่ ๆ กลวง ๆ ไม่มีอะไรมากนอกจากความมันส์ และความสะใจ แต่เอาจริง ๆ ถ้ามองลึกลงไปอีกนิดมันก็จะมีแรงบัลดาลใจ และแง่คิดบางอย่าง
แฝงอยู่ อย่างเช่นการมีความทะเยอทะยานถ้าเรามีมันมากพอไม่ว่าสิ่งไหนที่เราต้องการ สักวันเราจะได้มันมาครอบครอง เห็นได้จาก Jordan และเพื่อนร่วมทีมของเขาที่เอาความทะเยอะทะยานเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจโดยไม่สนห่าเหวอะไรทั้งสิ้น จนในที่สุดไอ้ความทะเยอทะยานนี้แหละที่ทำให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตบำเรอสุขตัวเองจนล้นปอด แต่กระนั้นก็เถาะสังคมมนุษย์มันมีกฎการใช้ชีวิตแห่งศีลธรรมแฝงอยู่ เราจะใช้ชีวิตโดยไม่
สนโลกยังไงก็ได้แต่ต้องอยู่บนศีลธรรม หากแต่ Jordan และทีมไม่สนศีลธรรมนี้แหละ จ้องจะโกงกันอย่างเดียวเลยยิ่งรวยยิ่งควบคุมกิเลสตนไม่ได้ ไม่รู้จักพอ ทะเยอทะยานอยากได้ไม่หยุด ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา มันจึงนำพาชีวิตพวกเขาไปสู่ความฉิบหายตามระเบียบ อย่างไรตาม Jordan ก็เป็นแบบอย่างได้ดีในบางเรื่องนะ นั้นคือทุกคนเมื่อล้มแล้ว ถ้ายังไม่ตายก็มีสิทธิที่จะลุกขึ้นมาทำตามฝันได้อีกครั้งเสมอ เห็นได้จาก
ตอนที่เข้าถูกดำเนินคดีฉ้อโกงจนเงินของเขาลดฮวบไปทันตา แต่เขาก็สร้างมันขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยการทำธุรกิจการขายผ่านทางทีวี แต่ก็หลอกเขาอีกนั้นแหละ 555
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนยังไม่ได้ดู ก็สามารถไปหาดูกันได้เลยจะผ่านทาง Netflix ก็ได้ หรือทางกล่อง True ID TV ก็ดีจ้า บอกได้ว่ามันส์สะใจจริง ๆ และ Jordan Belfort อาจจะแสบกว่าที่คุณคิดก็ได้ (ยิ้มมุมปาก)