รีวิวหนัง Top Secret วัยรุ่นพันล้าน

รีวิวหนัง Top Secret วัยรุ่นพันล้าน

Top Secret วัยรุ่นพันล้าน เป็นภาพยนตร์ไทยแนวดราม่า-ชีวประวัติ กำหนดฉายในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เนื้อเรื่องได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของอิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ เจ้าของธุรกิจขนมสาหร่ายทอด เถ้าแก่น้อย กำกับโดย ทรงยศ สุขมากอนันต์ และเขียนบทโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวผลิตโดยนาดาวบางกอก และจัดจำหน่ายโดยจีทีเอช นำแสดงโดย พชร จิราธิวัฒน์ สมบูรณ์สุข นิยมศิริ และ วลันลักษณ์ คุ้มสุวรรณ

Top Secret วัยรุ่นพันล้าน

Top Secret วัยรุ่นพันล้านล้านแรงบันดาลใจวัยรุ่น จะพาคุณไปรู้จักกับเรื่องราวจากชีวิตเบื้องลึกของ ต๊อบ อิทธิพัฒน์ (พชร จิราธิวัฒน์) เจ้าของธุรกิจสาหร่ายเถ้าแก่น้อย วัยรุ่นไทยที่พลิกชีวิตจากเด็กติดเกมส์ออนไลน์ เด็กมัธยมปลายที่เคยถูกครูฝ่ายปกครองค่อนขอดว่าเรียนจบแล้วจะไปทำอะไรกิน จนกลายมาเป็นวัยรุ่นพันล้านในวันนี้ต๊อบก้าวกระโดดมาถึงจุดนี้ได้อย่างไรแน่นอนว่าใครๆ ก็อยากรวย

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้าลงมือรวยแบบต๊อบอะไรคือสิ่งที่ต๊อบต้องฝ่าฝัน อะไรคือสิ่งที่ต๊อบต้องแลกให้กับคำว่า “รวย” อะไรคือมูลค่าที่แท้จริงของความรวย และอะไรคือสิ่งที่ผุดขึ้นในหัวของต๊อบเมื่อเขาได้ลองชิมสาหร่ายทอดบรรจุกระป๋องแบบโอท็อปเป็นครั้งแรก “อร่อย” “ซื้อที่ไหนนะ” “ราคาเท่าไหร่” “ฝากซื้อกี่กระป๋องดี” พบกับคำตอบที่ทำให้ต๊อบรวยพันล้าน แต่คุณไม่ ใน TOP SECRET วัยรุ่น พันล้าน

Top Secret วัยรุ่นพันล้าน

Top Secret วัยรุ่นพันล้าน เป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่สร้างขึ้นจากเค้าโครงเรื่องจริงของวัยรุ่นไทยที่ก้าวสู่การเป็นมหาเศรษฐีตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี ด้วยความสามารถ ความมุ่งมั่น กล้าได้กล้าเสียและไม่ยอมแพ้ ทำให้ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ หรือ ต๊อบ วัยรุ่นธรรมดา ๆ คนหนึ่งพลิกผันชีวิตของตัวเองสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ “เถ้าแก่น้อย” สาหร่ายทอดกรอบและขนมขบเคี้ยวแบรนด์ไทย

ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทั้งคนไทยและวัยรุ่นต่างชาติ ผ่านบทภาพยนตร์เรื่องนี้ที่กลายเป็นภาพยนตร์ที่หลายประเทศให้ความสนใจและทำรายได้เป็นอันดับ 1 ในหลาย ๆ โรงภาพยนตร์ แซงภาพยนตร์ฮอลีวู้ดที่ยึดอันดับ 1 อยู่ในขณะนั้น วัยรุ่นพันล้านนี้ เป็นผลงานการกำกับของ ทรงยศ สุขมากอนันต์ จากค่าย GTH ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง เด็กหอ แฟนฉัน ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น ฯลฯ รวมไปถึง ละครชุด ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ที่เป็นที่นิยมกันทั่วบ้านทั่วเมือง โดยมี พีช พชร จิราธิวัฒน์ มารับบทเป็นต๊อบ ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มขึ้นด้วยฉากที่ต๊อบ เด็กหนุ่มวัย 19 ปีเดินเข้ามาในธนาคารเพื่อขอสินเชื่อไปสร้างโรงงาน

ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับนายธนาคารไม่น้อย จึงให้ต๊อบเล่าถึงความเป็นมาเป็นไป ซึ่งก็เริ่มต้นจากชีวิตในช่วงมัธยมปลาย ที่ต๊อบกำลังติดเกมออนไลน์อย่างหนัก จนสามารถเก็บไอเท็มในเกมมาขายเป็นรายได้เดือนละหลายแสนบาท แต่เพราะมัวแต่เล่นเกมและหาเงิน จึงทำให้ต๊อบสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไม่ได้ ครั้นจะส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะไอดีของเกมถูกปิดลง เนื่องจากเจ้าของเกมพบว่ามีการขายไอเท็มด้วยเงินจริง ซึ่งเป็นการผิดกฎ ต๊อบจึงหารายได้ทางใหม่ด้วยการขาย DVD แทน แต่ปรากฏว่าถูกคนขายหลอกขายสินค้าคุณภาพไม่ดี

ในที่สุดต๊อบจึงต้องขโมยพระเครื่องของพ่อมาจำนำ เพื่อจ่ายค่าเทอม แต่ผลสุดท้ายต๊อบก็ไม่ค่อยได้เข้าเรียนสักเท่าไร เพราะมัวแต่หาเงินมาไถ่พระเครื่องคืน โดยการทำแฟรนไชส์เกาลัด แต่ก็ต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะโดนหลอกขายเครื่องคั่วเกาลัด การไปขโมยสูตรคั่วเกาลัดจากแผงลอยย่านเยาวราช การถูกหลอกขายพื้นที่ทำเลไม่ดี ไปจนถึงการถูกยกเลิกสัญญาทำเลในห้างทั้งหมด จนต้องล้มเลิกกิจการไป ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ครอบครัวของต๊อบถูกฟ้องล้มละลาย บ้านกำลังจะถูกขายทอดตลาด พ่อและแม่จึงตัดสินใจหนีไปอยู่เมืองจีน ในขณะที่ต๊อบยังยืนยันที่จะอยู่เมืองไทย ด้วยความที่มีจิตใจและวิญญาณของนักธุรกิจอยู่ในตัว ในที่สุดต๊อบก็ได้ไอเดียในการผลิตสาหร่ายทอดออกมาขายแทน แต่ก็เช่นเดิมเขาต้องประสบกับปัญหาและอุปสรรคหลายอย่างกว่าที่จะออกมาเป็นสาหร่ายทอดกรอบที่ขายดิบขายดีได้

ซึ่งก็ยังไม่พอจ่ายหนี้ที่สูงถึง 40 ล้านบาทอยู่ดี ต๊อบจึงพยายามมองหาหนทางในการสร้างรายได้ให้มากพอเพื่อใช้หนี้ให้ได้ ซึ่งก็คือการเอาสาหร่ายทอดกรอบเข้าไปขายในเซเว่นอีเลฟเว่น กว่าที่เขาจะสามารถเอาสาหร่ายเถ้าแก่น้อยเข้าเซเว่นได้ก็ต้องผ่านกฎระเบียบ ข้อกำหนดและมาตรฐานคุณภาพต่าง ๆ มากมาย แต่ในที่สุดเขาก็ได้รับอนุญาต ซึ่งนั่นก็หมายความเขาจะต้องมีโรงงานที่สามารถผลิตสินค้าได้มากพอและส่งของได้ทันเวลา ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องวัยรุ่นพันล้าน ซึ่งอาจจะมีบางส่วนที่ไม่ตรงกับชีวิตจริงไปบ้างในรายละเอียด

เพื่อให้เกิดอรรถรสของภาพยนตร์ แต่อย่างไรก็ตามโดยตัวเนื้อหาแล้วก็สามารถให้ข้อคิดในการทำธุรกิจและแรงบันดาลใจไม่ใช่น้อย และบทสรุปหลัก ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น การเอาชนะอุปสรรคด้วยการไม่ยอมแพ้ และความมุ่งมั่นตั้งใจ อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จในที่สุด ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ หาชมกันนะคะ

สะท้อนความสัมพันธ์ของชีวิต “วัยรุ่น” กับ “เกมส์” ได้อย่างทันสมัย

ต๊อบเป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่สามารถหาเงินจากการเล่นเกมจนทำให้มีเงินทองไหลมาเทมาอย่างไม่ขาดสายโดยไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ ถึงขนาดกับถือเงินสดไปออกรถเก๋งตัวท็อปคันใหม่ป้ายแดงขับไปโรงเรียนได้เลย จึงทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องนั่งเรียนเหมือนเพื่อน ๆ

ก็สามารถหาเงินก้อนโตมาใช้จ่ายได้อย่างสบาย ๆ แต่สำหรับในสายตาของป๊ากลับไม่เคยเห็นข้อดีในส่วนนี้ของต๊อบ ด้วยภาพของความเป็นเด็กติดเกมส์มากจนทำให้ต็อบมีปัญหาเรื่องผลการเรียนที่ย่ำแย่และไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้อย่างที่ป๊าคาดหวัง จึงทำให้ต็อบกับป๊านั้นต้องมีปัญหากันอยู่เสมอ

ซึ่งเรื่องราวของต็อบนั้นก็แทบจะไม่แตกต่างอะไรจากเด็กวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน 2020 นี้เลย เพราะการเล่นเกมส์ในยุคนี้ก็ได้กลายมาเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อหลาย ๆ ด้านเป็นอย่างมาก ซึ่งหากตอนนั้นป๊าและคุณครูให้การสนับสนุนในสิ่งที่ต็อบชอบ และหากต็อบรู้จักจัดสรรเวลาในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีก็อาจจะทำให้ต็อบกลายเป็นเกมเมอร์ที่มีชื่อเสียงและมีความสามารถคนหนึ่งเลยก็ได้

สร้างจุดแบ่งของความเป็นเด็ก และ ผู้ใหญ่ โดยใช้คำว่า “ความรับผิดชอบ”

ในหนังจะมีการแบ่งหน้าที่ของตัวละครอย่างชัดเจนโดยต็อบซึ่งเป็นลูกและยังคงเป็นเด็กในสายตาของป๊ากับม๊านั้นมีหน้าที่ที่จะต้องเรียนหนังสือให้จบ ขณะที่ป๊าที่เป็นเสาหลักของครอบครัวจะต้องมีหน้าที่แบกรับค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน และที่ม๊านั้นก็มีหน้าที่คอยดูแลสมาชิกทุกคนในครอบครัว

โดยเนื้อเรื่องจะดำเนินไปถึงจุดจุดหนึ่งที่ทั้งสามไม่สามารถรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้อีกต่อไป เมื่อต็อบนั้นไม่ตั้งใจเรียนหนังสือแต่กลับเอาเวลาไปเล่นเกมส์หาเงินมาใช้ ป๊าก็กำลังตกอยู่ในสภาวะล้มละลายและทรัพย์สินทุกอย่างกำลังจะถูกยึด และม๊าก็ไม่สามารถที่จะช่วยหาเงินให้ป๊าหรือทำให้ต็อบกลับไปเรียนหนังสือเหมือนเพื่อนได้

ซึ่งมันทำให้ตัวละครในครอบครัวนี้ได้ดำเนินมาถึงจุดแตกหักของความสัมพันธ์ เพราะป๊าก็ยังคงยืนยันจะให้ต็อบกลับไปเรียนให้ได้และตัวเองจะขอแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว ส่วนต๊อบนั้นก็คิดว่าเขาเองมีความสามารถพอที่จะช่วยป๊าแก้ไขสถานการณ์นี้ได้เช่นกัน มันจึงทำให้เราเห็นความพยายามของต็อบที่จะก้าวข้ามความเป็นเด็กโดยช่วยแบ่งเบาภาระความรับผิดชอบของป๊ามาด้วย